ตามที่สมาพันธ์ชาวพุทธเบลเยียม (Buddhist Union of Belgium) ได้เสนอให้มีการตรากฎหมายเพื่อรับรองพระพุทธศาสนาเป็นหนึ่งในศาสนาทางการของ เบลเยียม และสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ให้การสนับสนุน อาทิ การนำคณะสมาพันธ์ฯ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐสภาเบลเยียมไปเยือนประเทศไทย ในช่วงวันมาฆบูชาที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2551 เอกอัครราชทูตฯ ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ Ms. Mia De Schamphelaere ประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมสภาผู้แทนราษฎรเบลเยียม นาย Mark Verhaegen สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและนายกเทศมนตรีเมือง Hulsthout นาย Frans Goetghebeur ประธานสมาพันธ์ชาวพุทธเบลเยียม โดยมีเอกอัครราชทูตศรีลังกา กัมพูชา และอุปทูตอินเดีย ร่วมด้วย
ในโอกาสดังกล่าวนี้ ประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมฯ ได้กล่าวขอบคุณความริเริ่มและการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูตฯ ในการนำคณะไปเยือนเพื่อศึกษาพระพุทธศาสนาในประเทศไทย ที่สำคัญได้กล่าวด้วยว่า ตนพร้อมทั้งคณะกรรมาธิการฯ และพรรคการเมืองของตน (พรรค Flemish Christian Democrat ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง และเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของเบลเยียมในขณะนี้) จะให้การสนับสนุนในกระบวนการตรากฎหมายนี้ด้วย ดูคำกล่าวภาษาอังกฤษ
มีข้อสังเกตที่น่ายินดียิ่งสำหรับพุทธศาสนิกชนทั้งหลายด้วยว่า สำหรับการพิจารณาเรื่องพระพุทธศาสนาโดยทางการเบลเยียมในครั้งนี้นั้น เป็นครั้งแรกที่ผลจากการผลักดันของหลายฝ่าย ทำให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเบลเยียมเสนอให้มีการจัดสรรงบประมาณสนับ สนุนให้องค์กรหรือหน่วยงานที่อุปถัมน์ค้ำชู ดูแลศาสนานั้นตั้งแต่ต้น ซึ่งในกรณีนี้คือสมาพันธ์ชาวพุทธฯ เพื่อไปใช้จ่ายในการจัดตั้งสำนักงาน ฯลฯ ก่อนที่กระบวนการรับรองหรือออกกฎหมายจะแล้วเสร็จ ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่า พระพุทธศาสนาเป็นที่ยอมรับในประเทศนี้
เอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ที่ร่วมในโอกาสนี้เช่นกัน ก็ได้กล่าวขอบคุณการดำเนินการที่ผ่านมาของฝ่ายไทย และให้คำมั่นที่จะสนับสนุนกระบวนการนี้อย่างเต็มที่ต่อไป