เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2551 นาย Christian Jourquin ประธานคณะกรรมการบริหารของบริษัท Solvay ได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ ออท. พิศาล มาณวัฒน์ พร้อมด้วยหัวหน้าสำนักงานพาณิชย์ (น.ส. ศิรินารถ ใจมั่น) ศุลกากร (นายชยันต์ เอกะโรหิต) เกษตร (นายอดิศร พร้อมเทพ) และวิทยาศาสตร์ (น.ส. จันทร์เพ็ญ เมฆาอภิรักษ์) ประจำกรุงบรัสเซลส์ ณ สำนักงานใหญ่บริษัท Solvay ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยมีสมาชิกคณะกรรมการบริหารอื่นๆ ของบริษัท Solvay เข้าร่วมด้วย เช่น นาย Alexis Brouhn, Director , Government and Public Affairs Division นาย Werner Cautreels, General Manager of the Pharmaceutical Sector นาย Daniel Broens, General Manager for Human Resources และนาย Jacques Levy-Morelle, Corporate Secretary เข้าร่วมด้วย
ออท.พิศาลฯ ได้แสดงความชื่นชมบริษัท Solvay ในฐานะที่เป็นบริษัทชั้นนำของเบลเยียมที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เคมีภัณฑ์ พลาสติก และอุตสาหกรรมยา ก่อตั้งมากว่า 145 ปีและประสบความสำเร็จในการลงทุนและการค้าในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในไทย และยินดีที่ทราบว่า บริษัทฯ มีโครงการขยายการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยืนยันนโยบายของรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญและพร้อมให้การส่งเสริมการ ลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนของบริษัทที่ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่สะอาด เช่น บริษัท Solvay
นาย Jourquin แจ้งว่า บริษัท Solvay มีมูลค่าการลงทุนในประเทศไทยในปัจจุบันกว่า 750 ล้าน ยูโร ซึ่งเป็นฐานการลงทุนสำคัญที่สุดในเอเชีย นอกจากจีน โดยมีบริษัทในเครือได้รับการส่งเสริมผลิตผลิตภัณฑ์เคมีชนิดต่างๆ เช่น บริษัทเพอรอกซิไทย จำกัด ผลิต HYDROGEN PEROXIDE บริษัท วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ผลิตคลอรีน โซดาไฟ, VINYL CHLORIDE MONOMER, POLYVINYL CHLORIDE เป็นต้น นโยบายการลงทุนของบริษัทฯ เน้นการใช้เทคโนโลยีที่สะอาดตามมาตรฐานของ EU ไม่ว่าจะลงทุนในภูมิภาคใดก็ตาม และเมื่อลงทุนในประเทศใดแล้ว ก็ตั้งใจที่จะนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดไปใช้ในประเทศดังกล่าว รวมทั้งลงทุนระยะยาว ไม่ใช่หวังผลกำไระยะสั้น และให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และเคารพความหลากหลายทางวัฒนธรรมของสังคมใน ประเทศ เพราะบริษัทฯ ถือว่า ไม่ใช่เป็น multinational company แต่เป็น multi-cultural company
นาย Jourquin ได้กล่าวด้วยว่า สำหรับการลงทุนในไทย ที่ผ่านมา บริษัทฯ ไม่เคยประสบปัญหาใดๆ เพราะประเทศไทยมีนโยบายที่เป็นมิตรกับนักลงทุนต่างชาติมาโดยตลอด มีบุคลากรในภาครัฐ วิศวกรและแรงงานทั่วไปที่มีความสามารถ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความสำคัญในภูมิภาค บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นและไม่เคยมีข้อสงสัยเสถียรภาพการลงทุนในประเทศไทย ดังเห็นได้จากการการที่บริษัทฯ ได้ตัดสินใจย้ายสำนักงานภูมิภาคจากสิงคโปร์ มาที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ ในช่วงปี 2550 และ 2551 มีโครงการเพิ่มการลงทุนในไทยในหลายธุรกิจ เช่น บริษัท Peroxythai อยู่ระหว่างขยายการลงทุน ร่วมกับ บริษัท Dow Chemicals เพื่อพัฒนาโรงงานผลิต hydrogen peroxide ที่ใหญ่ที่สุดในโลก