เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2552 สมาคมสตรีภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Women Association) ซึ่งประกอบด้วยภริยาคณะทูตของประเทศต่างๆ ที่ประจำในเบลเยียมได้ร่วมกันจัดงาน APWA Charity Bazaar 2009 ณ สถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ถนน Tervuren กรุงบรัสเซลส์ โดยมีจุดประสงค์เพื่อหารายได้ไปบริจาคแก่ผู้ประสบเคราะห์และภัยพิบัติในประเทศต่างๆ ซึ่งในปีนี้ คณะกรรมการฯ มีมติให้ส่งเงินไปช่วยเหลือประชาชนในอัฟกานิสถาน พม่าและบังกลาเทศ รวมทั้งผู้เคราะห์ร้ายจากเขื่อนระเบิดในอินโดนีเซีย
พิธีเปิดงาน APWA Charity Bazaar 2009 มีขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. โดยประมาณ Mrs Nino N. Riphat ภริยาเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียในฐานะประธานการจัดงานดังกล่าวได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยต่อแขกเกียรติยศ ประกอบด้วย Mrs.Geertrui Van Rompuy ภริยานายกรัฐมนตรีเบลเยียม คณะทูตานุทูตและภริยา รวมทั้งประชาชนของประเทศสมาชิกฯ ที่รอชมการแสดงอยู่หน้าเวทีจำนวนหลายร้อยคน
การแสดงชุดแรกเป็นการแสดงนาฏศิลป์ของอินโดนีเซีย ต่อด้วยขบวนพาเหรดในชุดประจำชาติของประเทศสมาชิกที่มีสีสันสวยงามแตกต่างกันไป ท่ามกลางเสียงปรบมือเข้ากับจังหวะดนตรีจากผู้ชมรอบๆ เวที โดยผู้เดินพาเหรดของแต่ละประเทศได้โบกธงประจำชาติของตน หลังจากนั้น เป็นการแสดงนาฏศิลป์ไทยชุดแรก คือ เซิ้งสวิง ซึ่งมีดนตรีและลีลาที่สนุกสนาน เข้ากับบรรยากาศที่สดใสในเช้าวันนั้น นอกจากนี้ การแสดงของไทยอีก 2 ชุด คือ นารีศรีอิสาน และเซิ้งแหย่ไข่มดแดง ก็ได้สร้างสีสันและความคึกครื้นให้แก่งานอย่างมากเช่นกัน
ต่อจากนั้น ประธานจัดงานฯ ได้นำ Mrs.Van Rompuy เดินชมบูธจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมของแต่ประเทศซึ่งจัดตกแต่งอย่างสวยงาม และได้แวะชมบูธประเทศไทย ซึ่งวางจำหน่ายดอกไม้ประดิษฐ์ของมูลนิธิศิลปาชีพ สินค้าหัตถกรรมนานาชนิด เช่น กระเป๋าสตรีหลายแบบ ที่ทับกระดาษประดิษฐ์เป็นรูปสัตว์ พวงกุญแจ สบู่แกะสลัก กระปุกเกลือ-พริกไทย ต้นกล้วยและดอกไม้ปั้นจากดิน เป็นต้น
ในปีนี้ สถานทูตไทยได้เข้าร่วมงานอย่างแข็งขัน โดยนางวัญจนา มาณวพัฒน์ ภริยาเอกอัครราชทูตฯ ได้ออกแบบและสั่งพิมพ์โปสเตอร์ บัตรเข้างาน และบัตรชิงโชค จากประเทศไทยเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ทั้งยังได้สั่งดอกไม้ประดิษฐ์จากมูลนิธิศิลปาชีพมาจำหน่ายในงานเพื่อทดลองตลาด ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก นอกจากนี้ ยังได้เปิดบูธจำหน่ายอาหารไทย ประกอบด้วย ผัดไทย แกงเขียวหวานไก่ ต้มยำกุ้ง และกล้วยทอด ซึ่งสามารถจำหน่ายได้ดีตลอดทั้งวันเช่นเดียวกับสินค้าหัตถกรรมของไทย ทำให้ไทยสามารถส่งเงินบริจาคได้เป็นอันดับต้นๆ ของงาน