ขอเชิญร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ์ฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ พบหารือกับผู้แทนสมาคมคนไทยในเบลเยียม “ไทยแฟลก”

โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แบบท่องเที่ยงเชื่อมโยง (7+7)

  1. โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แบบท่องเที่ยงเชื่อมโยง (7+7) /Phuket Sandbox Extension (7+7) คืออะไร?
    • โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่อนุญาตให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้วสามารถเดินทางเข้าภูเก็ตและพื้นที่อื่น ๆ ที่กำหนดได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยมีเงื่อนไขดังนี้
  2. ผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วม
    • ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
    • ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว​ครบถ้วนไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนวัเดินทาง
      โดยผู้เดินทางที่มีถิ่นพำนักในเบลเยียมจะต้องแสดง EU Digital Covid Certificate 
    • เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีที่เดินทางกับผู้ปกครองสามารถร่วมเดินทางได้แม้ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยจะต้องแนบสูติบัตรเพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์กับผู้ปกครอง (เด็กที่เดินทางลำพังแต่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ทั้งนี้ สามารถเลือกทางเลือกแบบ Alternative Quarantine/ALQ ได้ตามปกติ)
    • ผู้ที่มาจากเบลเยียมและลักเซมเบิร์กถูกจัดให้สามารถเข้าร่วมได้(ต้องอยู่ในประเทศดังกล่าวต่อเนื่องกันเป็นเวลาอย่างน้อย 21 วันก่อนวันเดินทาง ***ยกเว้นกรณีของผู้ที่มีถิ่นพำนักอยู่ในประเทศไทย เช่น คนไทยที่เดินทางออกมายังต่างประเทศในระยะสั้น หรือ ชาวต่างชาติที่ถือบัตรพำนักถาวรในประเทศไทย)
    • มีประกันสุขภาพ(ครอบคลุมการรักษาพยาบาลและกรณีติดเชื่อโควิด-19 วงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ)
      • สำหรับชาวต่างชาติต้องมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมตลอดระยะเวลาการพำนักในประเทศไทย
      • สำหรับชาวไทยต้องมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมระยะเวลาอย่างน้อย 15 วัน
      • สามารถดูรายละเอียดหรือติดต่อซื้อประกันได้ ที่https://covid19.tgia.org  และ   https://www.tipinsure.com/CovidRegional/product_detail
  1. เงื่อนไข
    • เที่ยวบิน
      • เที่ยวบินตรงเข้าภูเก็ตหรือ เที่ยวบินที่มีการพักเครื่องที่กรุงเทพโดยไม่มีการออกจากเครื่องบิน
      • หากจะพำนักในภูเก็ตและพื้นที่ที่กำหนด น้อยกว่า 14 วัน ท่านต้องบินออกนอกประเทศไทยจากสนามบินภูเก็ตโดยตรง (ต้องแสดงตั๋วเครื่องบินขาออก)
      • หากพำนักในภูเก็ตครบ 7 วัน หรือมากกว่า ท่านสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ +7 ได้โดยพาหนะที่กำหนด
      • หากพำนักในภูเก็ตและพื้นที่+7 ครบ 14/15 วัน หรือมากกว่า ท่านสามารถเดินทางไปยังจังหวัดอื่นได้ ซึ่งกรณีนี้สามารถเดินทางออกจากประเทศไทยจากสนามบินอื่นได้
  1. พื้นที่ +7
    • จ. สุราษฎร์ธานี เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า (โดยเที่ยวบินตรง)
    • จ.กระบี่ เกาะพีพี เกาะไหง และไร่เล (โดยทางเรือ)
    • จ.พังงา เขาหลัก (โดยทางรถ)
    • จ.พังงา เกาะยาวน้อย หรือเกาะยาวใหญ่ (โดยทางเรือ)
  2. โรงแรม
    • ต้องพักในโรงแรม SHA+ที่ได้รับการรับรองจากระบบ SHABA ( SHA Plus Booking Authentication)  https://www.thailandsha.com/  หรือ จองผ่าน https://entrythailand.go.th  ครบตามจำนวนวันที่กำหนด (หากอยู่ไม่ถึง 14 วันท่านจะต้องแสดงตั๋วเครื่องบินขาออกจากภูเก็ตไปยังประเทศอื่น)
    • หรืออย่างน้อย 14 วัน (หากประสงค์จะพำนักในประเทศไทย 14 วันขึ้นไป โดยหลังจาก 14 วัน ผู้เดินทางจึงจะสามารถเดินทางออกนอกภูเก็ตไปจังหวัดอื่นของประเทศไทยได้)
    • โดย7 วันแรกจะต้องพักในโรงแรม SHA+เดียวกันตลอดที่ภูเก็ต เมื่อท่านเดินทางไปที่พื้นที่ +7 ท่านสามารถจองโรงแรม SHA+ ได้ โดยสามารถจองที่พักในแต่ละพื้นที่ไม่เกิน 2 โรงแรม  {***ในขั้นตอนการขอใบ COE ให้ท่านอัปโหลดเอกสารจากโรงแรมทั้งหมดทุกโรงแรม แต่ให้แรกชื่อโรงแรมเป็นโรงแรมสำหรับ 7 วันแรกที่เข้าพัก (หากมีการเปลี่ยนโรงแรมหลังจาก 7 วันแรก) ***}
  • การย้ายที่พัก
    • จ.พังงา
      • กรณีเกาะยาวน้อย และ เกาะยาวใหญ่ ต้องจองที่พัก ณ เกาะใดเกาะหนึ่ง
        ไม่สามารถย้ายได้ แต่สามารถเที่ยว day trip ระหว่างเกาะได้
      • กรณีเขาหลัก ต้องพักที่เขาหลักเท่านั้น และ ไม่สามารถท่องเที่ยว day trip ที่อื่นได้
    • จ.กระบี่ และ จ.สุราษฎร์ธานี สามารถย้ายที่พักระหว่างเกาะได้ทั้งหมด
  1. เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาพำนัก
    • หากอยู่ไม่ครบ 14 วัน ท่านจะต้องเดินทางกลับไปขึ้นเครื่องที่สนามบินภูเก็ต และเดินทางออกนอกประเทศไทยเท่านั้น
    • กรณีอยู่ครบ 14 วัน ท่านสามารถ เดินทางไปต่อยังพื้นที่อื่นๆได้ ตามเงื่อนไขเดิมของ Phuket Sandbox โดยมี Release Form จากโรงแรม SHA+ ระบุข้อมูลตามเงื่อนไข

 

  1. ผลตรวจ COVID-19 
    • ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต้องมีผลตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR มีอายุไม่เกิน 72 ชม.
      ก่อนเดินทาง
    • เมื่อเดินทางถึงไทย จะต้องเข้ารับการตรวจ COVID-19 เป็นจำนวน 3 ครั้ง กรณีพำนักครบทั้ง 14 วันหากประสงค์จะพำนักน้อยกว่า 14 วัน โปรดดูจำนวนการสำรองการตรวจตามกำหนดข้างล่าง
      • ครั้งที่ 1 : เมื่อเดินทางถึงสนามบินที่ภูเก็ต และต้องรอผลการตรวจในโรงแรมก่อนในขั้นแรก
      • ครั้งที่ 2 : วันที่ 6-7 หลังจากเดินทางถึง และต้องรอผลการตรวจครั้งที่สองก่อนเดินทางไปในพื้นที่+7
      • ครั้งที่ 3 : วันที่ 12-13 หลังจากเดินทางถึง
    • ***สามารถจองและชำระการตรวจโควิด-19 PCR ล่วงหน้าได้ที่ thailandpsas.com และนำหลักฐานการจ่ายเงินมาแสดงในขั้นตอนการขอ COE (***อัปโหลดเอกสารดังกล่าวในช่องเดียวกันกับ เอกสารการเข้าพักโรงแรม SHA+)
  • แอปพลิเคชันติดตามการเดินทาง
    • ผู้เดินทางต้องติดตั้งแอปพลิเคชันติดตามการเดินทาง“ThailandPlus” และ “หมอชนะ” ตลอดการพำนักในภูเก็ต 14 วัน มิฉะนั้นแล้วท่านอาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกไปยังจังหวัดอื่น
  1. วิธีการสมัครขอใบ COE
    • ให้ท่านเลือกแจ้งในช่องแสดงความประสงค์เข้า “Sandbox Programme”
      1. “คุณเดินทางเข้าพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยว (Sandbox Programme) หรือไม่”
      2. “โปรดระบุพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวที่คุณจะเดินทางเข้าเป็นแห่งแรกเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย”

 

หมายเหตุ: ข้อมูลข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยมิทราบให้แจ้งล่วงหน้า

 

ไทย